วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552

ประกาศกิจกรรม ok-bus


สืบเนื่องจากกิจกรรมของบ้านหลังนี้ในเเต่ล่ะปีที่เราปฎิบัติกันมา ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง เเล้วเเต่วาระ เเละความสะดวกจากการปรึกษาหารือกัน กับหลายๆ ฝ่าย พี่ น้องๆ เพื่อนสมาชิกเเล้ว กระผมเเละ เวปมาสเตอร์ ผอ.มือหนึ่งได้มีฉันทามติให้อนุมัติกิจกรรม ประจำปีนี้ โดยเป็นไปในรูปเเบบทัศนาจร โดยไม่เเสวงหาผลกำไรใดๆทั้งสิ้นพี่น้องครับ..โดยกิจกรรม เเละเเนวทางของกิจกรรมนั้น เน้นไปในทางสร้างความเหนียวเเน่ เเละพบปะเพื่อนสมาชิกเเละร่วมเดินทางท่องเที่ยวกันในบรรดาเพื่อนพี่น้องสมาชิกครับ รายได้ซึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายเเล้ว (ซึ่งไม่เเน่ใจว่าจะมีให้เห็นหรือเปล่านะครับ)จะสมทบทุนเป็นค่าใช้จ่ายในเวปเพื่อต่อลมหายใจให้บ้านเเห่งนี้ต่อไปใน ปี 2553....ครับณ.โอกาสนี้ กระผมในนามส่วนหนึ่งของเวปเเห่งนี้ จึงใคร่ขอเรียนเชิญ เพื่อนสมาชิกที่มีเจตนารมณ์ อุดมการณ์เดียวกันนี้ ทุกๆคนถือเป็นการพบปะสังสรรค์ เเละช่วยเหลือเวป เเละพอสะดวกในการเดินทางไปได้ ผมก็ถือโอกาส ขอเรียนเชิญทุกๆคนครับผม........

โดย โปรแกรม "โอเคบัสทัศจร 2552 " ประจำปีนี้มีดังต่อไปนี้

โปรแกรมเที่ยว 4 – 7 ธันวาคม 2552

ศุกร์ ที่ 4 ธันวาคม 2552

19.00 น.รับคนตาม จุด ในกรุงเทพฯ และเดินทาง มุ่งหน้าสู่ จังหวัดเชียงราย

เสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2552

07.00 น. เช้าที่วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย เป็นวัดบ้านเกิดของอาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรชื่อดังของไทย ผู้ฝาก ผลงานด้านพุทธศิลป์ที่เกรียงไกร วิจิตร วิไล และอลังการคณานับไว้บนผืนแผ่นดินไทยและต่างประเทศจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก

08.00น . ได้เวลาเดินทางต่อไป พระธาตุผาเงา

09.30 น. เที่ยว และ นมัสการพระธาตุผาเงา วัดเก่าแก่ที่สำคัญของ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

10.30 น. ได้เวลาเดินทางต่อไปยัง สามเหลี่ยมทองคำ

11.30 น. เที่ยวและเลือกซื้อสินค้า รับประทานอาหารเที่ยง ที่ สามเหลี่ยมทองคำ เป็นบริเวณที่แม่น้ำโขงและแม่น้ำรวกมาบรรจบกัน หรือที่เรียกว่า สบรวก เป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทย ลาว พม่า

13.00 น. ได้เวลาออกเดินทางต่อไปยัง อ.แม่สาย

14.30 น. เที่ยวแม่สาย เหนือสุดของประเทศไทย ตลาดชายแดนที่ตลาดท่าขี้เหล็ก จังหวัดชายแดนของประเทศพม่า จำหน่ายสินค้านานาชนิด ประเภทอัญมณี พลอยสี ทับทิม หยก เครื่องใช้ไฟฟ้า ราคาถูกจากประเทศจีน อาหารทะเลแห้ง เหล้า บุหรี่

16.00 น. ออกจากแม่สาย แล้วเดินทางสู่บ้านท่าตอน

19. 30น. ถึง วัดท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ รับประทานอาหารเย็น (พักตามห้องพักของทางวัดจัดให้ 1 คืน )

อาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม 2552

05.00 น. เดินทางขึ้น เที่ยวชม และสัมผัสอากาศหนาว ชมวิว บนวัดท่าตอน และ นมัสการพระบรมธาตุรัชมังคลาจารย์สมานฉันท์ (พระเจดีย์แก้ว) ซึ่งเป็นที่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ เป็นสถานที่ตั้งพระพุทธรูปโบราณ (โดยทางวัดจัดรถสองแถวไว้บริการขึ้น-ลง)

09.00 น. พร้อมกันที่ ลานวัดท่าตอน รับประทานอาหารเช้า และเดินทางออกจากท่าตอน ไป จ.เชียงใหม่

11.30 น. ถึง จ.เชียงใหม่ รับประทานอาหารเที่ยง

12.00 น. ออกเดินทางต่อ ไปบ่อสร้าง

13.00 น. เที่ยวชมและเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึกของฝาก ที่หมู่บ้านบ่อสร้าง อำเภอสันกำแพง ที่มีชื่อเสียงในการทำร่ม ของจังหวัดเชียงใหม่

14.00 น. ได้เวลาเดินทางไป สันกำแพง เที่ยวบ่อน้ำพุร้อนสันกำแพง แวดล้อมด้วยภูเขา น้ำแร่ น้ำพุร้อนมี อุณหภูมิสูงกว่า 100 องศาเซลเซียส

16.00 น. ได้เวลาเดินทางต่อไปสวนราชพฤกษ์

16.30 น. เที่ยวชม พันธุ์พืช และความสวยงามของสวนราชพฤกษ์(พืชสวนโลก)

18.00 น. เดินทางกลับเข้าที่พัก ในตัวเมืองเชียงใหม่ (พักเชียงใหม่ 1 คืน) (กลางคืนเที่ยวชมตลาดไนท์บาซาร์ ถนนคนเดิน ตามอัธยาศัย)

จันทร์ ที่ 7 ธันวาคม 2552

06.00 น. เดินทางออกจากที่พัก รับประทานอาหารเช้า และเลือกซื้อของฝากจากเชียงใหม่ที่ร้านวนัสนันท์08.00 น ออกเดินทางไปพระธาตุดอยสุเทพ

09.00 น เที่ยวชมวิว และ นมัสการ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่บน ยอดดอยสุเทพ เป็นหนึ่งในวัดของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีความสำคัญมากที่สุด

10.30 น. เดินทางล่องกลับ ลำปาง

12.00 น. แวะ ซื้อของ ฝาก และรับประทานอาหารเที่ยงที่ ตลาดทุ่งเกวียน จ.ลำปาง

13.00 น. เดินทางมุ่งหน้าต่อไป พระธาตุลำปางหลวง

13.30 น. เที่ยวชม และ นมัสการ พระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง

14.30 น. ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพฯ

21.30 น. ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ และส่งคนตามจุดต่างๆหมายเหตุ: โปรแกรมนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ของสถานที่ เวลาและสถานการณ์ เพื่อประโยชน์ของท่านมากที่สุด....--------------------------------------------------------------------------------------------------------ค่ารถพร้อมค่าที่พักผู้ใหญ่ 1400 บาท/เด็ก 900 บาท (ราคานี้ไม่รวมค่าธรรมเนียมการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ)...งดรับฟรี เข้ง หมู ลูกห่าบ ทุกประการ....*ผู้ที่ขึ้นรายทาง หรือ ขึ้นระหว่างการเดินทาง ยกไว้เป็นตามกรณีไปครับ*บัตร 1 ใบต่อ 1 ที่นั่งเท่านั้น ที่นั่งมีจำนวนจำกัดเพื่อประโยชน์และความสะดวกของท่านเอง กรุณาตรวจเช็ค ระบุที่นั่ง และตรวจสอบวันเวลาเดินทางให้เรียบร้อยครับ---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ที่นั่งมีจำนวนจำกัด สนใจ ติดต่อสอบถาม ลงชื่อเเละเบอร์โทรไว้นะคะติดต่อ Tel. 081-9407616 พี่กุ้ง 081-0890456 โอม
เเล้วเจอกันนะคะ

ว้าว








ว้าว
ภาพนี้นะคะเป็นภาพภายในของรถบัสหลังจากที่เราดูภายนอกกันเยอะแล้ว ภาพแรกเป็นภาพของบู๊ชดีเจรถคันนี้เด่นตรงที่ว่าส่วนมากพี่ ๆ ดีเจจะอยูข้างคนขับบางคันก็ไม่มีที่นั่งดีเจแต่คันนี้สุดยอดค่ะพี่ดีเจของเราอยู่ข้างบนสามารถให้ความสุขกับลูกทัวได้เต็มที่ การที่ดีเจอยู่ข้างบนดิฉันว่าดีกว่านะคะเพราะอย่างที่ดิฉันว่าดีเจจะให้ความสุขได้เต็มที่กว่า
ส่วนอีกสามภาพนั้นลองดูดี ๆ นะคะว่ามีอะไรก็อย่างที่เห็นเป็นโลโก้ของรถต่าง ๆ ใครไปเที่ยวที่ไหนกลับมาบ้านแล้วพบว่าท้ายรถของเราโลโก้หายไป555นั่นแหละโดนเข้าแล้วรถบัสพวกนี้จะใช้วิธีการโดยใช้วัสดุที่เรียบ ๆ แบน ๆ เช่นเกียงงัดที่ท้ายของรถเป้าหมายโดยที่คนขันก็คงไม่รู้ตัหรือไม่ก็จอดรถไว้แล้วไปที่อื่นแต่ช่างไม่รู้เลยว่าสิ่งที่รถบัสต้องการนั้นไม่ใช่ทรัพสินใด ๆ ภายในรถแต่กลับต้องการโลโก้ของรถต่างหาก
ยกตัวอย่างนะคะสงกรานต์ที่ผ่านมาที่คลองชลสระบุรีในขณะที่ทุกคนเล่นน้ำอย่างสนุกสนานผู้คนเดินไปมาใครจะไปรู้ว่าพวกเพื่อน ๆ ของดิฉันจะพากันตั้งหน้าตั้งตางัดโลโก้รถอย่างสนุกสนานเช่นกัน กลับมาถึงบ้านพบว่า ว้าว งัดได้เป็นกระสอบวันนั้นก็โดนไปหลายคันตามระเบียบค่ะ แต่ดิฉันก็พูดอะไรไม่ได้ก็เรามันคนรักบัสนี่ก็ต้องตาม ๆ เค้าไป
ท่านที่มีรถก็ต้องระวังตัวเองนะคะทางที่ดีก็ติดตั้งสัญญานกันขโมยไว้ก็ดีค่ะ

งานขบวน


งานขบวน
ภาพนี้ตั้งแต่เดือนที่แล้วค่ะเก็บไว้นานแล้ว เดินทางจากโรงเรียนชัยบุรีพิทยา จ.สุราษฎร์ธานี

ปลายทางสถาบันทักษิณคดีศึกษา และสวนสัตว์สงขลา

รูปไม่ค่อยเรียงลำดับเป็นเรื่องเป็นราวเท่าไรน่ะ คงไม่ว่ากันกับทีมงานเพื่อนบ้านเราเองค่ะ Crazybusthailand (ที่สุราษฎร์ หารถสังกัด ok-bus ยากมาก)เป็นงานขบวนรถบัสนะคะเวลามีงานขบวนเนี่ยสนุกมาก ๆ เลยค่ะเด็กรถของแต่ละคันเนี่ยพากันโบกรถอย่างสนุกสนานถ้าใครมีเวลาลองจัดไปงานขบวนดูนะคะไปกันหลาย ๆ คันติดต่อที่ดิฉันก็ได้ค่ะที่เบอร์ 0867556822 อย่าลืมนะคะ

ขอแสดงความยินดี




ขอแสดงความยินดีกับ บ.ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่


ดิฉันพึ่งอ่านพบในคอลัมน์ สังคมทั่วทิศ นสพ ไทยรัฐ ประจำวันที่15/08/2009จังหวัดเชียงใหม่ได้มอบรางวัลสถานประกอบการ ดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (ISO18000)ประจำปี2552 ในระดับจังหวัด ให้กับ บ.ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่(กรีนบัส) ในฐานะ สมาชิก WWW.OK-BUS.COMขอแสดงความยินดีกับเมลล์เชียว ขวัญใจพี่น้องสายเหนือ ด้วยนะคะ คราวนี้จะไปไหนก็ต้อง บ.ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่(กรีนบัส)เดินทางสะดวกปลอดภัย 100%นะเจ้า ดิฉันก็สนใจอยู่เหมือนกันไอ้รถเขียวเนี่ยยังงัยก็ยินดีด้วยนะจ๊ะรถเขียว อิอิ


การเดินทางกับซุปเปอร์ไลอ้อนโค๊ซ ม.4 ค บริษัท ขนส่ง จำกัด


การเดินทางกับซุปเปอร์ไลอ้อนโค๊ซ ม.4 ค บริษัท ขนส่ง จำกัด

บริการโดย บริษัท ขนส่ง จำกัด 99

ต้นทาง สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ [อาเขต]

ปลายทาง สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกำแพงเพชร

เส้นทาง 18 เชียงใหม่-กรุงเทพฯ

หมายเลขข้างรถ 18 - 1674

มาตราฐานรถ ม.4ค

ราคาตั๋วโดยสาร - ค่าธรรมเนียม 209 บาท

วันที่เดินทาง วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม 2552

ชานชาลา 15

เลขที่นั่ง 1E

เวลา .18.00

เวลาออก .18.10

เวลาถึงปลายทาง .23.20 [กำแพงเพชร]

ระยะเวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง 10 นาที

ระยะทาง 337 กิโลเมตร

เครื่องยนต์ BENZ

ตัวถัง อู่ธนบุรี บัสบอดี้

ทรง ซุปเปอร์ ไลอ้อนโค้ช

วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

ข่าวดี


เจ๊เกียว นำทีมผู้ประกอบการมินิบัสยื่นหนังสือถึง รมว.คมนาคม เรียกร้องให้ยกเลิกระเบียบที่มินิบัสต้องเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์จากการใช้ น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงมาใช้ก๊าชเอ็นจีวี ฯลฯ เนื่องจากลงทุนสูง ไม่คุ้ม และปั๊มเอ็นจีวีมีไม่เพียงพอให้บริการ กลุ่มผู้ประกอบการรถมินิ บัส นำโดยนางสุจินดา เชิดชัย ในฐานะประธาน ตัวแทนผู้ประกอบการรถมินิบัส จำนวนกว่า 30 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงคมนาคม ยกเลิกระเบียบและประกาศองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ได้กำหนดให้ผู้ประกอบการรถมินิบัส จะต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์ใหม่จากการใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงมา เป็นการใช้ก๊าชเอ็นจีวีแทน รวมถึงจะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสภาพรถ สีรถใหม่ และต้องมีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล โดยมีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ภายใน 2 ปี ซึ่งตามกำหนดข้อบังคับของ ขสมก. หากผู้ประกอบการรถมินิบัส ไม่ปฏิบัติตามภายใน 16 ส.ค 2552 ทาง ขสมก.จะถือว่าผู้ประกอบการรถมินิบัสไม่ประสงค์ที่จะเข้าร่วมเดินรถกับ ขสมก. และทาง ขสมก.จะยกเลิกสัญญาสัมปทานทันที และหาก ผู้ประกอบการรถมินิบัส ยังฝ่าฝืนนำรถมาวิ่งให้บริการจะถูกดำเนินคดีทันทีนาง สุจินดา กล่าวว่า สาเหตุที่มายื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องให้กระทรวงยกเลิกระเบียบดังกล่าว เนื่องจากการปรับเปลี่ยนสภาพรถ และ การใช้ก๊าชเอ็นจีวี ผู้ประกอบการต้องการงบประมาณในการดำเนินการ ใช้เงินลงทุนสูง ประกอบกับสถาบันการเงินต่าง ๆ ไม่ปล่อยกู้ ซึ่งหากมีการปรับเปลี่ยนได้จริงผู้ประกอบการมองว่าไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน และเป็นการเพิ่มภาระกับผู้ประกอบการนอกจากนั้นในสภาพปัจจุบันสถานี ที่ให้บริการก๊าชเอ็นจีวีมีไม่เพียงพอที่จะให้บริการกับผู้ประกอบการ ส่วนกรณีที่ตามระเบียบข้อบังคับกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องจดทะเบียนเป็น นิติบุคคลนั้น ผู้ประกอบการต้องมีทุนจดทะเบียนกว่า 10 ล้านบาท ถือว่าสูงมากนาง สุจินดา กล่าวว่า ซึ่งจากเหตุผลต่าง ๆ นั้นทางกลุ่มผู้ประกอบการมินิบัสจะขอให้กระทรวงคมนาคมยกเลิกระเบียบ และหากยกเลิกได้ทางผู้ประกอบการรถมินิบัส พร้อมที่จะเปลี่ยนรถให้มีสภาพเป็นคันใหม่ แต่จะขอยังใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงต่อไป รวมถึงจะขอเวลาในการจัดหารถคันใหม่ภายใน 1 ปี นับตั้งแต่ 16 ส.ค.2552 และขอให้ในช่วงที่ยังจัดหาปรับเปลี่ยนสภาพรถนั้น ทางผู้ประกอบการจะขอนำรถคันเดิมมาวิ่งให้บริหารต่อไปด้านนายโอภาส เพชรมุณี รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า หากทางผู้ประกอบการรถมินิบัสจะขอเลื่อนระยะเวลาในการปรับเปลี่ยนรถใหม่ ทางผู้ประกอบการต้องทำหนังสือ และแผนที่จะดำเนินการอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เพราะ ขสมก. ไม่สามารถแบกรับภาระค่าเสียหาย ค่าประกันของผู้ประกอบการรถมินิบัสได้. -สำนักข่าวไทย

แผงผังการติดตั้งแตรด่วน

ก่อนมาดูหลักการทำงาน อยากให้ดูแผงผังการติดตั้งประกอบด้วยเพื่อความเข้าใจหลักการทำงานค่ะ
ขออธิบายหลักการทำงานของระบบแตรลมคร่าวๆ เอาพอเข้าใจ(ลึกมากเดี๋ยวงง) โดยเริ่มจากรถใหญ่ก่อนนะคะ(รถเล็กก็ติดได้นะคะ หลักการเดียวกันเลย)เริ่มแรก ปั้มลม
(1)จะปั่่นลมมาเก็บไว้ที่ถังลมหลักของรถ
(2) ถังลมนี้มีติดมากับรถแล้ว จากนั้นจะต่อสายลม หรือท่อลม นำลมไปใช้กับระบบต่างๆ เช่น เบรก เกียร์ลม ประตูลม ถุงลม ฯลฯ แต่ที่นี้จะขอพูดเรื่องการนำลมไปใช้กับแตรลมคะจากหม้อลม ก็ต่อท่อลม/สายลมมายังแตรลม ซึ่งมี 2 แบบให้เลือกใช้ตามใจชอบ คือ -แตรลมไฟฟ้า
(3) ซึ่งจะต่อง่ายกว่านิดหน่อยไม่ต้องมีวาวล์ลมแบบแมน่วล เพราะแตรแบบนี้มีวาวล์ลมแบบไฟฟ้าหรือ"โซลินอยด์วาวล์"ให้ในตัว แต่จะปวดหัวเวลาเดินระบบไฟ เพราะเราต้องใช้ไฟฟ้าสั่งงาน เปิด-ปิด วาวล์ลม(โซลินอยด์)ที่ติดกับแตร ในปากแตรจะมีลิ้นแตรอยู่ข้างใน ทำให้เกิดเสียงต่างๆออกมา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแตรที่ท่านเลือกใช้ด้วย ถ้าชอบเสียงแบบรถทัวร์ต่างจังหวัดก็เอาแบบ 2 ปาก ไม่ต้องยาวมากค่ะ แตรแบบนี้นิยมติดกันมากที่สุดบนรถทัวร์ค่ะ เพราะสามารถใช้สวิซท์ร่วมกับแตรเดิมได้ เพียงแต่เพิ่มสวิชชิ่งอีกตัวเอาไว้สับเปลี่ยนระหว่างแตรเดิมกับแตรลม-แตรลมตรง หรือ แตรด่วน อันนี้ต่อง่ายกว่านิดหน่อยเพราะไม่ต้องไปยุ่งกับระบบไฟฟ้าให้ปวดเศียรเวียนเกล้า ติดซ่อนก็ได้ ติดโชว์ก็ดี มีอุปกรณ์เปิด ปิดลมคือ วาวล์ลมแมน่วล
(4)หรือโซ่ชักนี่แหละค่ะ นิยมติดกันมากในบรรดา่รถแต่งโหดๆ จากนั้นก็ต่อท่อลมไปยังปากแตร
(5) ปากแตรตัวนี้เสียงจะออกแนวๆ สิบล้อหรือรถทัวร์พัดลมแต่งโหดๆค่ะ



แตรด่วน


แตรด่วน

หลายท่านสงสัยว่าทำไมผมถึงพูดเรื่อง"แตรด่วน" ก็ขออธิบายเลยว่ารถทัวร์คันที่แต่งสวยๆโหดๆมักจะต้องติดแทบทุกคัน หรือบางคันก็ติดซ่อนไว้ใต้รถเพื่อกันตำรวจจับ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับมันดีกว่าครับแตรด่วน หรือ แตรลม ก็คือ แตรชนิดหนึ่ง ไว้ส่งสัญญาณเตือนยวดยาน หรือสิ่งอื่นๆ ที่กีดขวางทางเรา เพียงแต่มีข้อแตกต่างกับแตรธรรมดาตรงที่

-เสียงดังกว่าแตรธรรมดา(มิน่า ปิงปองถึงชอบซิว )

-ใช้ลมในการทำงาน แตรทั่วไปจะใช้ไฟฟ้าทำงาน แต่แตรลม/แตรด่วนใช้ลมครับ-อุปกรณ์ควบคุมการทำงานซับซ้อนกว่านิดหน่อยรถที่ติดตั้งแตรลมส่วนใหญ่ก็จะเป็นรถทัวร์ รถสิบล้อ หรือรถขนาดใหญ่ ซึ่งมีระบบลมให้อยู่แล้ว(พวกเบรกลม ช่วงล่างถุงลม) แต่รถกระบะ รถตู้ รถเก๋ง มอไซค์ก็ติดได้นะครับถ้าใจรัีก ชอบเสียงแตรลม(โดยเฉพาะพวกเราชาวโอเคบัส) เพียงแต่ต้องเดินหาอุปกรณ์เพิ่มเติมนอกจากปากแตร เช่น หม้อลม ปั็๊๊มลม สายลม สวิชชิ่งสับเปลี่ยนแตรเดิมกับแตรลม(เป็นไม้กันหมา) การติดตั้ง ปวดหัวแน่นอนค่ะเพราะต้องติดตั้งซ่อนให้ดีๆ ไม่งั้นงานเข้าแน่นอนค่ะอุปกรณ์ใช้ในระบบมีดังนี้ค่ะ

1.ปากแตรลม มีทั้งแบบใช้่สวิซท์ไฟฟ้าในการควบคุม เรียกภาษาช่างว่า แตรลมสวิซ์ไฟฟ้า ไม่ใช่แตรด่วนที่ติดบนหลังคา นิยมติดซ่อนไว้ใต้กันชน(คนละอย่างกับแตรหอยโข่งนะคะ บางคนเรียกแตรหอยโข่งว่า "แตรลมไฟฟ้า"อันนี้่ไม่ใช่แตรลมนะคะ เำพียงแต่เสียงดังคล้ายๆกันค่ะ )และปากแตรที่ใช้วาวล์ลมควบคุม(วาวล์ลมโซ่ชักที่ติดในรถพัดลม) อันนี้เราเรียกว่า แตรลมตรง หรือ "แตรด่วน" ที่ชาวรถทัวร์นิยมเรียก นิยมติดโชว์ครับผม เพราะวาวล์อยู่ในห้องโดยสาร เดินระบบง่ายกว่าแตรลมวาวล์ไฟฟ้า ปากแตร มีแบบ 1ปาก 2 ปาก 3 ปาก แล้วแต่เราชอบค่ะ ส่วนใหญ่นิยมปากแตร 2 ปากมากกว่า

2.หม้อลม ใช้เก็บลมสำรอง อันนี้ต้องมีค่ะ

3.สายลม ไว้ต่อจากหม้อลมไปที่ปากแตร

4.สวิซ์ควบคุม ถ้าเป็นแตรลมวาวล์ไฟฟ้ามันจะมีวาวล์ไฟฟ้้าอยู่ที่ปากแตรแล้วค่ะ แต่ถ้าเป็นแตรลมตรงหรือแตรด่วนจะใช้สวิซท์ลมในการควบคุมเปิด-ปิดลมไปยังปากแตร ขอเพิ่มเติมเกี่ยวกับแตรลมไฟฟ้า เวลาติดตั้งส่วนใหญ่นิยมติดสวิซท์่่ชิ่งสองทาง เอาไว้สับเปลี่ยนระหว่างแตรเดิมกับแตรลม ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเสียกะตังค์โดยที่ไม่เต็มใจค่ะ

5.ปั๊มลม มีแบบใช้มูเล่ยปั่นจากเครื่อง กับแบบไฟฟ้า ถ้าเป็นรถใหญ่ๆ จะใช้ปั้มลมปั้นจากเครื่องซึ่งเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน เอาลมไว้ใช้ระบบเบรก ระบบถุงลม ระบบเกียร์ลม ประตูลม แตรลม ฯลฯ แต่ถ้าเราอยากติดเอง ส่วนใหญ่ใช้ปั๊มลมไฟฟ้าค่ะ มีประโยชน์เวลาเราต้องการสูบยาง เป่าลมทำความสะอาดรถนอกเหนือจากที่ใช้กับแตรลมนะคะ.Pressure Switch เอาไว้ตัดการทำงานของปั๊มลมเวลาแรงดันเกิน ใครติดถังลมแล้วไม่ใส่ตัวนี้น่ากลัวนะคะ หม้อลมอาจระเบิดได้เพราะแรงดันเกิน

รายได้พนักงานขับรถ

รายได้ของพนักงานขับรถ
ถ้าเป็นของรัฐ พวก บขส. ขสมก เงินเดือนจะเริ่มตนที่ประมาณ 10000 บวกค่าเบี้ยเลี้ยงประมาณวันละ 1 เท่าครึ่งของเงินเดือน สวัสดิการ ก็เหมือนข้าราชการทั่วไป เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ ตรงนี้ดีกว่าบริษัทเอกชน เงินเดือนสํงสุดก็ตามฐานเงินเดือนครับผม ขึ้นอยู่ว่าจะได้ 2 ขั้นด้วยหรือไม่ แต่ถ้าขับรถจนเกิดอุบัติเหตุ อันนี้ซวยกว่าชาวบ้านแน่นอนครับถ้าเป็นของเอกชน รายได้ประมาณ 15000-20000 หรือแล้วแต่บริษัทจะให้ สวัสดิการ ถ้าเป็นบริษัทใหญ่ๆ ก็จะใช้ระบบประกันสังคมค่ะ
ขอเสริมเพิ่มจากอีกนิดนะคะ
เท่าที่ได้ฟังมาส่วนใหญ่ที่เป็นเอกชน จะมีโบนัสให้ทุกๆ 3,6,12แล้วแต่ละบริษัท โดยพิจารณาจาก ไม่มีอุบัติเหตุ ไม่มีการร้องเรียนด้านการให้บริการ หรือมารยาทการขับ หรืออื่นๆที่ บริษัทนั้นๆ กำหนด ถ้าอยู่ในเงื่อนไข พขร ท่านนั้นๆก็รับตรงนี้ไป

การเดินทางไปต่างจังหวัด

เมื่อ คุณผู้อ่านต้องเดินทางไปต่างจังหวัดโดยทางรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว หรือนั่งรถบัสโดยสาร มักจะได้พบกับรถบรรทุกขนาดต่าง ๆ ทั้ง สิบล้อ หกล้อ หรือรถพ่วง สัญจรไปมาในปริมาณมากกว่าที่จะพบเห็นได้บนถนนเขตในเมือง และหลายคนคงจะเคยนึกสงสัยว่า เหตุใดรถบรรทุกขนาดใหญ่เหล่านั้น มักจะเปิดสัญญาณไฟหน้า หรือไฟท้ายเป็นประจำ และจากการสืบสาวราว เรื่องแล้วจึงได้ทราบว่า ทั้งการเปิดไฟหน้ารถ หรือเปิดสัญญาณไฟท้ายรถของรถบรรทุกนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นสัญญาณเพื่อสื่อสารกับรถที่ขับตาม หรือขับสวนทางมาทั้งสิ้น เริ่มจากการใช้สัญญาณไฟท้ายรถบรรทุก ที่คุณผู้อ่านจะพบเห็นเมื่อต้องขับตามหลัง • เปิดไฟเลี้ยวซ้ายสลับกับไฟเลี้ยวขวา หมายถึง การเตือนให้รถคันหลังระวัง! เพราะเขาอาจหยุดรถในอีกไม่ช้า หรือข้างหน้าอาจมีด่านตรวจ หรือมีอุบัติเหตุ เพราะฉะนั้น คุณห้ามแซงเด็ดขาด • เปิดไฟฉุกเฉิน เมื่อรถบรรทุกกำลังเคลื่อนตัวใกล้ทางแยก หมายถึง รถของเขากำลังจะตรงไป • เปิดไฟเลี้ยวซ้ายสลับกับเลี้ยวขวา แล้วเปิดไฟฉุกเฉินต่อ หมายถึง เขากำลังจะจอดรถ • เปิดไฟเลี้ยวซ้ายโดยไม่ต้องเตรียมเลี้ยวหรือจอดข้างทาง หมาย ถึง เขาจะขับช้าให้รถที่ตามมาแซงขึ้นไปได้เลย และไม่มีรถขับสวนมา (แต่เพื่อความปลอดภัย ก่อนแซง จะต้องแน่ใจก่อนว่าไม่มีรถขับสวนเลนมาจริง ๆ) • เปิดไฟเลี้ยวขวา ทั้งเปิดค้างหรือเป็นจังหวะ หมายถึง รถที่ตามหลังอยู่ห้ามแซง เพราะเขากำลังจะเลี้ยวขวา กำลังจะแซงคันหน้า หรือมีรถกำลังจะขับสวนมา • กรณีรถที่ขับตามหลังสามารถแซงขึ้นไปได้ จะมีการส่งสัญญาณอยู่ 2 จังหวะ คือ ระหว่างรถตีคู่(กลางคืน) เขาจะเปิดไฟสูง เพื่อให้รถคันที่แซงเห็นทาง ก่อนจะลดไฟต่ำลง เมื่อรถคันดังกล่าวเข้ามาในเส้นทางแล้ว แต่หากเป็นตอนกลางวัน คนขับรถบรรทุกจะกระพริบไฟเพียงครั้งเดียว หรือบีบแตรสั้น 1 ครั้ง ในความหมายเดิม อีกจังหวะเกิดขึ้นระหว่างตีคู่เช่นกัน คือ รถคันที่กำลังแซงควรบีบแตรสั้น 1 ครั้ง เป็นการขอบคุณ และผู้ขับรถบรรทุกอาจบีบแตรสั้น 1 ครั้ง ถือเป็นการตอบรับ ส่วนการขับรถสวนเลนกับรถบรรทุก จะพบว่ารถเหล่านั้นส่งสัญญาณไฟหน้า ที่มีลักษณะและความหมายต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ • ดับไฟหน้าแล้วเปิด หมายถึง ให้ระวัง เพราะทางข้างหน้า(ซึ่งเขาเพิ่งผ่านมา) มีด่านตรวจ หรือมีอุบัติเหตุ • กระพริบไฟหน้า หมายถึง การถามว่าทางที่คุณเพิ่งขับผ่านมามีด่านตรวจหรืออุบัติเหตุหรือไม่ หากทุกอย่างเป็นปกติให้กระพริบตอบ 1 ครั้ง • กระพริบไฟหน้าและเปิดไฟเลี้ยว(ด้านเลนสวน) หมายถึง มีด่านตรวจอยู่ข้างหน้าฝั่งของคุณ • กระพริบไฟหน้าและเปิดไฟเลี้ยว(ด้านซ้ายของรถบรรทุก) หมายถึง ที่เพิ่งผ่านมามีด่านตรวจอยู่ในฝั่งของเขา • หากพบรถบรรทุกขับตามกันมาเป็นขบวน (กรณีที่คุณยังขับรถสวนเลนกับรถบรรทุก) ควร สังเกตรถบรรทุกในลำดับที่สองหรือลำดับต่อ ๆ ไป กระพริบไฟ เบนหัวรถออกมาเล็กน้อย และกระพริบไฟซ้ำอีก หมายถึง เขากำลังจะแซงรถบรรทุกคันหน้าในเลนของเขา ให้คุณระวัง โดยชะลอความเร็ว อย่าเร่งความเร็วรถเพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ อย่าง ไรก็ตาม สัญญาณและความหมายของการใช้ไฟเลี้ยว และไฟกระพริบลักษณะต่าง ๆ ที่รถบรรทุกนิยมใช้ในข้างต้นนั้น อาจไม่ใช่กฎเกณฑ์สากล แต่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ถูกเปิดเผยโดยส่วนนโยบายและคุณภาพความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม ที่รู้ไว้ก็ไม่เสียหาย